CO.CC:Free Domain

เพิ่มความเร็วในการเข้าถึงบล็อกของคุณได้ง่ายๆ

เราได้หาวิธีที่จะทำให้บล็อกของคุณโหลดเร็วขึ้น ดังนี้ครับ

1.จำกัดจำนวน post ที่แสดงหน้าแรก ไม่มากจนเกินไป
2.แนะนำให้ใส่ code/script เพิ่มเติมเอาไว้ที่ด้านล่างๆของหน้าบล็อก
3.อย่าใส่รูปภาพ วีดีโอ หรือกราฟฟิก แอนิเมชั่นต่างๆ มากจนเกินไป
4.ใส่ค่า CSS ที่ด้านบนสุดของหน้า
5.ใช้เครื่องมือที่ http://www.numion.com/Stopwatch/ ทดสอบเวลาที่ใช้เปิดหน้าบล็อก

เพียงแค่นี้ทุกคนก็อยากจะเข้าบล็อกของเรามากมายแล้วละครับ

กลิตเตอร์ รูปกราฟฟิกสวยๆสำหรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่นี้

ใกล้จะถึงปีใหม่แล้ว ท่านผู้อ่านหลายท่านคงจะมองหาของขวัญให้คนที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นขนม เสื้อผ้า อุปกรณ์กีฬา กระทั่งสินค้าไอทีต่างๆ

แต่หากใครที่มีเพื่อนมากๆ ไม่มีเวลาหาของขวัญไปฝาก ลองส่งรูปหรืออีการ์ดสวยๆไปให้สิครับ รับรองผู้รับต้องดีใจแน่นอน

เชิญชม ภาพกราฟฟิกคริสต์มาส-ปีใหม่ แต่งบล็อก ไดอารี่ hi5 myspace

http://freeforhi5.110mb.com/holiday-seasons1.html

ประวัติศาสตร์เบอร์โทรมือถือ

หลายคนคงอยากรู้ว่าเบอร์มือถือที่มีรหัสนำหน้ามากมาย อันไหนจะมาก่อนกัน
คำตอบคือ 01 มีมาก่อนครับ หลังจากนั้นเป็น 09 08 และ07

(ตั้งแต่ 1 ก.ย. 49 ที่ผ่านมาคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ได้กำหนดให้มีการเปลี่ยนเลขหมายโทรศัพท์มือถือเป็น 10 หลัก จากเดิม 9 หลัก เพื่อขยายจำนวนเลขหมายโทรศัพท์มือถือให้รองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้อย่างเพียงพอ โดยเติมเลข 8 เข้าไปข้างหลังเลข 0 )

หลังจากนั้นก็มี 0 อื่นๆตามมาเรื่อยๆ ตามข้างล่างนี้ครับ

081 - แรกสุด
089
086
087
085
084
083
080
082 - ล่าสุด

ขาดอีกตัวก็คือ 088 ใครหลายๆคนอาจจะรออยู่มั้งครับ

เครือข่าย 3G ใช้งานได้แล้วครั้งแรก ที่กรุงเทพฯ

นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากการที่เอไอเอสได้เปิดตัวบริการ อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สายและมือถือเห็นหน้าได้ด้วยเทคโนโลยี HSPA บนคลื่นความถี่ 900 เม็กกะเฮิร์ตซ เป็นรายแรกของประเทศไทย ภายใต้ชื่อ 3GSM advance เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2551 ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงบนมือถือ และให้คำแนะนำในการพัฒนารูปแบบบริการให้ตรงใจมากยิ่งขึ้นนั้น”


“เพื่อเป็นการขยายการรับรู้และให้ลูกค้าเอไอเอสชาวกรุงเทพฯ ทั้ง GSM advance และ One-2-Call! ได้สัมผัสประสบการณ์จากอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สายอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2551 เอไอเอส จึงเปิดให้บริการ 3G ด้วยเทคโนโลยี HSPA บนคลื่นความถี่ 900 เม็กกะเฮิร์ตซ เป็นรายแรกในกรุงเทพมหานครฯ โดยเริ่มติดตั้งเครือข่ายครอบคลุมบริเวณโซนพลาซ่า ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และ เอไอเอส ฟิวเจอร์เวิลด์ สยามพารากอน เนื่องจากมองว่าเป็นพื้นที่ใจกลางเมือง เป็นศูนย์รวมของทั้งนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน หรือ ครอบครัว จึงเหมาะที่จะใช้เป็นพื้นที่เริ่มต้นให้ชาวกรุงเทพฯ ได้มาทดลองใช้งานจริง โดยลูกค้าเอไอเอส ทั้ง GSM advance และ One-2-Call! สามารถใช้บริการได้ทันที เพียงแจ้งเปิดใช้บริการ 3G ที่สำนักงานบริการเอไอเอส ชั้น 4 เซ็นทรัล เวิลด์ หรือ โทรแจ้งที่ AIS Call Center 1175”

สำหรับบริการที่เปิดให้ทดลองใช้จริงนี้ ประกอบด้วย มือถือเห็นหน้าได้ (Video Call), บริการข้อมูลทั้งหมดใน AIS Mobile Internet ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น TV on Mobile ซึ่งจะมีภาพและเสียงที่คมชัดมากยิ่งขึ้น รวมถึงการใช้งาน Wireless Hi-Speed Internet โดยอัตราค่าบริการ Data นั้น จะคิดตามปริมาณข้อมูลที่ใช้งานจริง ส่วนโปรโมชั่น Voice Call จะเป็นโปรโมชั่นเดิมที่ใช้งานอยู่ โดยปัจจุบันมีมือถือที่รองรับการใช้งานแล้วหลากหลายรุ่นด้วยกัน อาทิ Nokia 5320, 6121, 6220, E6, E71,N78,N79, Phone One M602, M602+, (USB Modem) E500 และรุ่นอื่นๆ รวมแล้วกว่า 10 รุ่น

นายสมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “การติดตั้งเครือข่าย HSPA ของเอไอเอส ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ที่สอดคล้องกับความต้องการ โดยตั้งเป้าให้มีสถานีฐานทั้งหมดรวมแล้วมากกว่า 500 สถานี ทั้งนี้จะทยอยขยายพื้นที่ครอบคลุมมากขึ้นตามลำดับใน 3 จังหวัด คือ กรุงเทพ, เชียงใหม่ และชลบุรี ที่จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ต้นปี 2552”

ขั้นตอนการสมัคร AlertPay Account

ในนี้ไม่มีรูปนะครับ (ไม่งั้นจะโหลดช้า)

การสมัครก็เป็นไปตามขั้นตอนนี้

1. เข้าไปที่เว็บ Alertpay.com



2.หัวข้อ personal account เลือก Open an Account

3. เลือกประเทศ รูปแบบบัญชี

4. กรอกข้อมูลลงไป(ภาษาอังกฤษ) ช่องที่เป็น optional ไม่กรอกก็ได้ เสร็จแล้วกด next

5. กรอก email password รหัสลับ(pin) และอื่นๆให้ครบถ้วน อย่าลืมทำเครื่องหมายถูกที่ I agree เพื่อยอมรับข้อตกลง กด next

6. เข้าไปคลิกลิงค์ยืนยันจาก email ที่เราสมัคร

7.ล็อกอินเข้าในบัญชี

8. เตรียม verify account

คำแนะนำ เมื่อสมัครแล้วควร verify ทันทีหรืออย่างช้าไม่เกิน 2 อาทิตย์
เพราะขณะรอตรวจสอบเอกสารยังสามารถทำธุรกรรมได้ตามปกติ แต่ถ้าทาง AlertPay บังคับให้ยืนยันบุคคลจะไม่สามารถใช้เงินได้ โดยรับได้อย่างเดียว

หลักฐานในการแวริฟายมี 2 ส่วน
1 Photo ID
2 Proof of Address

Photo ID ประกอบด้วย บัตรประชาชน บัตรข้าราชการ พาสปอร์ต ใบขับขี่ เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
สแกนแล้วอัพโหลดในส่วน Photo ID

Proof of Address ประกอบด้วย บิลค่าโทรศัพท์ บิลค่าอินเตอร์เน็ต ใบแจ้งหนี้บัตรเครดิต bank statement ฯลฯ อย่างใดอย่างหนึ่ง
สแกนแล้วอัพโหลดในส่วนของ Proof of Address

ทั้ง 2 หลักฐานต้องมีชื่อที่อยู่ตรงกันกับที่ลงทะเบียนไว้กับเว็บ(ถ้าไม่ตรงให้กลับไปแก้ไขให้ตรงได้)

ใช้เวลาในการตรวจสอบเอกสาร 3-20 วัน (บางรายวันเดียวก็ผ่าน)
เมื่อผ่านการตรวจสอบแล้ว หากภายหลังมีการแก้ไขที่อยู่ใน my profile ก็อาจจะต้องทำการ verify acc. ใหม่ทุกครั้ง

9. เริ่มใช้งานได้เต็มรุปแบบ สามารถเพิ่มบัญชีธนาคาร บัตรเครดิต ฯลฯ ได้ตามสะดวก

รู้จักกับ Alertpay ธนาคารออนไลน์ทั่วโลก

เพื่อนๆหลายคนที่มีโอกาสใช้อินเทอร์เน็ตบ่อยๆ คงจะเคยได้ยินหรือเห็นชื่อของ PalPal หรือ alertpay กันบ้างแล้ว
วันนี้เราจะมาอธิบายให้เข้าใจมากขึ้นครับ

Alertpay คืออะไร ?
Alertpay เป็ยธนาคารออนไลน์แห่งหนึ่งบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งให้เราสามารถโอนเงินจากเว็บหนึ่งไปยังอีกเว็บๆหนึ่งได้ และสามารถโอนกลับเข้าธนาคาร(และของประเทศไทย)ได้เช่นเดียวกัน
สำหรับผู้ที่ทำงานบน Internet ผ่านเว็บต่างๆ หรือธุรกิจออนไลน์ ส่วนใหญ่ก็ต้องรับเงินทาง Internet ด้วยเช่นกันส่วนน้อยที่จะได้รับเงินเป็นเช็ค เพราะฉะนั้นถ้าหากเราคิดที่จะหารายได้ผ่านอินเทอร์เน็ตและรับเงินอย่างสะดวกสบายแล้วละก็ คุณก็ไม่ควรพลาดที่จะต้องสมัคร Alertpay ไว้ด้วยเช่นกัน

ทำไมเราต้องสมัคร Alertpay
เหตุผล : เพราะบางเว็บไซต์เขาจะจำกัด จุดหมายของการรับเงิน เช่นจ่ายผ่านเช็คเท่านั้น หรือจ่ายผ่าน Alertpay เท่านั้น หรือจ่ายทั้งสองแบบ ซึ่งเราไม่มีสิธเลือกได้เลยว่าจะให้เขาจ่ายเงินเราทางไหน เพราะเขาจะเป็นผู้กำหนดเอง
และ Alertpay ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ปลอดภัย และหน้าเชื่อถือไมแพ้ธนาคารออนไลน์แห่งอื่นเช่นกัน

คราวหน้ามาพบกับวิธีการสมัครใช้งานครับ
หากใครรีบก็เข้าไปกรอกได้ที่ลิงค์ด้านล่าง แนะนำ personal starter หรือ Pro (ยิ่งสมัครก่อนยิ่งดีครับ เพราะมีหลายขั้นตอนกว่าจะยืนยันและใช้งานได้จริง)

ทีนี้มาดูก่อนว่าจะสมัครแบบไหนดี ตามรายละเอียดดังนี้

Personal Starter (สามารถอัพเกรดเป็น pro ได้ทีหลัง)
- รับเงินไม่เสียค่าธรรมเนียม
- รับได้ไม่เกิน $400 ต่อเดือน รวมแล้วไม่เกิน $2000 ต่อปี
- รับเงินจากบัตรเครดิตไม่ได้
- add Email ได้ 2 Email

Personal Pro
- รับเงินเสียค่าธรรมเนียม 2.5% + $0.25 ต่อครั้ง
- รับเงินจากบัตรเครดิตได้ เสียค่าธรรมเนียม 5% + $0.25 ต่อครั้ง
- ไม่จำกัดวงเงินที่ได้รับ
- ส่งเงินหลายบัญชีพร้อมๆ กันได้
- add Email ได้มากกว่า 2 Email
- การดูแลเอาใจใส่จากเวปดีกว่า Personal Starter (เพราะเสียค่าธรรมเนียมให้เขา)

และยังมีสำหรับบริษัทองค์กร ทุกรูปแบบ Account สามารถส่งเงินได้ไม่จำกัด และไม่มีค่าธรรมเนียมการส่งเงิน

โดยส่วนใหญ่นักหารายได้ทางเน็ตจะเปิดบัญชีในรูปแบบ personal ครับ
เพราะใช้หลักฐานส่วนตัวในการแวริฟายเพื่อยืนยันตัวตน

เมพขิงๆๆ มันคืออะไรละนั่น??

หลายคนคงเคยเข้าไปตามกระทู้ แล้วเห็นคำว่า เมพ หรือเมพขิง
สงสัยบ้างไหมว่ามันคืออะไร ต่อไปนี้เป็นคำตอบ

จะเป็น "เทพจริงๆ" ก็ไม่ได้ด้วยสินะ

ให้ลองมองลองดูที่ Keyboard สิครับ
เรื่องมันมีอยู่ว่าเวลาที่เราพิมพ์กันอย่างรวดเร็ว
และตัว ม.ม้า อยู่ใกล้ ท.ทหาร และ ข.ใข่ อยู่ใกล้ จ.จาน
เวลาพิมพ์เลยผิดเพี้ยนจากคำว่า เทพจิงๆ เป็น ---> เมพขิงๆ


เหมือน ๆ กับคำว่า สุดยิด = สุดยอด พิมพ์เลื่อนจากตัว อ.อ่าง ไปกด สระ อิ แทนไงครับ

ซิมแจกฟรี วิธีเลือกซิมให้ถูกใจไม่มีพลาด

โปรดระวังการรับซิมฟรี เพราะในยุคที่ซิมฟรี เบอร์สวยระบาดอยู่ทั่วไปแบบนี้ มาดูหลักการเลือกใช้งานซิมฟรีเหล่านี้ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ แถมเลือกโปรโมชันให้ตรงกับพฤติกรรมการใช้งานดีกว่า

หากว่าได้ผ่านไปในแหล่งชุมชน ไม่ว่าจะเป็น ป้ายรถเมล์ หน้าห้างสรรพสินค้า หรือตามตลาดนัด เราจะเห็นบุคคลกลุ่มหนึ่งที่แจกซิมฟรี พร้อมมีโปรโมชันน่าสนใจ ทำให้อดใจอ่อนรับซิมฟรีเหล่านั้นมาใช้ไม่ได้ แต่ก่อนที่คุณผู้อ่านจะยื่นมือไปรับซิมฟรีเหล่านั้นเราควรรู้ว่าจะรับซิมประเภทไหน มีโปรโมชันใดมาใช้

เลือกซิมอย่างไรให้เหมาะ

ถ้าจะดูว่าเราควรจะเลือกใช้ซิมแบบเติมเงินหรือแบบรายเดือนนั้น ก่อนอื่นเราจะต้องมาพิจารณาถึงเรื่องพฤติกรรมการใช้งาน หากคุณเป็นผู้ที่ใช้งานการโทรแบบโทรบ่อยๆ โทรนานๆ ทำให้ค่าโทรในแต่ละเดือนบานปลายละก็ การใช้แบบรายเดือนก็ช่วยในเรื่องเหมาจ่าย รวมถึงมีโปรโมชันค่าโทรแบบโทรนานๆ ได้ในรายจ่ายนิดเดียว ก็จะช่วยประหยัดไปได้อีกหน่อยนึง เพราะหากคุณต้องมานั่งเติมเงินวันละ 50-100 บาท (ถึงเติมแบบ 1-3 วันครั้งก็เถอะ)เพื่อใช้โทรละก็ พอคิดรวมค่าใช้จ่ายทั้งเดือนแล้ว คุณอาจต้องจ่ายออกไปมากกว่าก็ได้ แต่ถ้าคุณโทรไม่มากเท่าไร การใช้แบบเติมเงินก็จะช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีมาก เติมเงินเพียงครั้ง อาจใช้ได้นานกว่าที่คิด หากเงินในโทรศัพท์เหลืออยู่น้อยนิด แต่วันยังเหลืออีกมาก ก็สามารถใช้รับสายได้ ช่วยให้ประหยัดกว่าใช้แบบรายเดือนได้เยอะ

เรื่องวัฒนธรรมการจ่ายแบบที่ชอบสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการจ่ายค่าโทรศัพท์ตามวันเวลาที่กำหนดละก็ การใช้แบบเติมเงินจะให้ความอิสระได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ หรือเดี๋ยวนี้มีบริการเติมเงินจากมือถือด้วยแล้ว ไม่ว่าที่ไหน เมื่อไร ก็เติมได้เสมอส่วนผู้ที่ไม่ชอบรายจ่ายแบบยิบย่อย เดี๋ยวก็ต้องเติมเงินอีกแล้ว การใช้แบบรายเดือนก็ช่วยตัดความรำคาญด้านนี้ไปได้เยอะ เนื่องจากเราจ่ายในครั้งเดียว และรู้รายจ่ายที่แน่นอนว่าจะต้องจ่ายเดือนๆ หนึ่งเป็นจำนวนประมาณเท่าไร รวมถึงผู้ที่ขี้ลืม มักลืมอยู่เสมอว่ามีเงินค่าโทรเหลือหรือไม่ การใช้แบบรายเดือนก็ช่วยคลายความปวดหัวไปได้เลย

เรื่องพร้อมหรือไม่ที่จะถูกผูกมัดผู้ที่รักอิสระ ไม่อยากถูกผูกมัดกับรายจ่ายที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน รวมถึงสัญญาว่าจะต้องใช้อย่างน้อยกี่เดือนๆ การเลือกแบบเติมเงินก็ช่วยปลดปล่อยคุณจากพันธนาการเหล่านี้ได้ ไม่ว่าจะเลิกใช้ อยากจะเปลี่ยนเบอร์ก็สามารถทำได้เลย แต่ถ้าคุณมั่นใจแล้วว่าอยากจะใช้เบอร์นี้ไปนานๆ ยังไม่มีโครงการเปลี่ยนเบอร์โทรในระยะอันใกล้ การเลือกใช้แบบรายเดือนก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรครับ เพราะบางครั้งการเป็นลูกค้าแบบรายเดือนอาจจะมีการดูแลหรือสิทธิพิเศษที่ดีกว่านิดหน่อย ให้ความรู้สึกว่าเป็นคนพิเศษดีเหมือนกันครับ

นอกจากนี้ยังต้องเลือกโปรโมชันถูกใจ สบายกระเป๋า เมื่อเรารู้แล้วว่าเราอยากจะเป็นลูกค้าแบบรายเดือนหรือแบบเติมเงิน เราก็มาดูกันว่า จะเลือกใช้โปรโมชันมือถืออย่างไร ให้จ่ายน้อยที่สุด โดยที่ผู้ใช้งานอย่างเราใช้ได้คุ้มค่าที่สุดด้วย โดยต้องดูว่าชอบคุยแบบใด การที่จะรู้ว่าเราควรเลือกใช้โปรโมชันใดนั้น เราควรถามตัวเองว่าเรามีพฤติกรรมในการโทรอย่างไร เน้นโทรออก หรือว่าเน้นรับสาย ถ้าต้องโทรออกบ่อยๆ ไม่ว่าจะติดต่อธุรกิจหรือโทรหากิ๊ก ลองมองหาที่ค่าโทรต่อนาทีราคาไม่แพง แต่ถ้าเน้นรับสายไม่ค่อยโทรเองละก็ เลือกแพ็คเกจค่าโทรขนาดเล็ก ที่แม้จะอัตราต่อนาทีแพงกว่านิดหน่อยก็ตาม เพราะถึงอย่างไรเราก็ไม่ค่อยโทรอยู่แล้วใช่ไหมครับ เมื่อลองคิดรวมๆ แล้วค่าโทรของเราจะถูกกว่าเลือกแพ็คเกจขนาดกลางหรือใหญ่เยอะเลย

นอกจากนี้ ควรดูด้วยว่าเราเป็นประเภทโทรบ่อยแต่คุยแป๊บเดียว หรือโทรไม่บ่อย แต่โทรทีคุยยาวเลย หรือทั้งโทรบ่อยและคุยนาน หากเป็นประเภทแรก ควรเลือกค่าโทรในนาทีแรกราคาถูกจะดีกว่า แต่ถ้าโทรนานละก็ เลือกแบบที่นาทีต่อไปราคาถูก หรือจะเป็นแบบเหมาชั่วโมงจะได้ความคุ้มมากกว่าครับ

ต้องดูว่าช่วงเวลาไหนที่โทรบ่อย ในบางโปรโมชัน จะมีกำหนดช่วงเวลาที่เราโทรได้ถูกด้วย เราจึงควรสังเกตพฤติกรรมตนเองว่าโทรบ่อยในช่วงเวลาใด แล้วเลือกแพ็คเกจที่ช่วงเวลานั้นค่าโทรถูก แต่ถ้าโทรบ่อยทั้งเช้า สาย บ่าย เย็น ลองมองหาโปรโมชันที่ค่าโทรเท่ากันตลอดทั้งวัน จะได้ไม่ต้องมานั่งวิตกว่าเลยเวลาที่โทรได้ถูกแล้วอย่างไรล่ะครับ นอกจากนี้ต้องรู้ว่าคุณโทรเครือข่ายเดียวกันหรือเปล่า

สำหรับบางโปรโมชัน จะมีค่าโทรในเครือข่ายเดียวกันถูกกว่าการโทรข้ามเครือข่าย ลองดูว่าบรรดากิ๊ก หรือผู้ที่เราโทรหาเสมอๆ นั้นใช้บริการของเครือข่ายไหน ถ้าใช้เครือข่ายเดียวกันกับเรา การเลือกโปรโมชันที่ลดค่าโทรในเครือข่ายเดียวกันให้ก็ได้ความคุ้มค่าดีครับ

by: manager online

Designed by Posicionamiento Web | Bloggerized by GosuBlogger | Blue Business Blogger